คือเรื่องมีอยู่ว่าสมัยตอนที่เราเรียนอยู่ปี2เราได้รู้จักกับผู้ชายมุสลิมอยู่คนหนึ่ง
คบกันได้สักพักตัดสินใจที่อยู่ด้วยกันโดยที่ไม่ได้แต่งงานกัน
ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่ทราบเลยว่าการอยู่กินด้วยกันก่อนแต่งงาน
จะบาปมากแค่ไหน?
เรื่องทำซินาเป็นบาปใหญ่มากในอิสลาม
เราไม่เคยทราบมาก่อนเพราะความที่พี่เขาไม่ได้เคร่งครัดอะไร
อยู่กินด้วยกันสักพักจนเกือบปีพี่เขาก็มาเล่าให้ฟังว่า
เราจะต้องแต่งงานกันนะแต่ต้องแอบแต่งเพราะที่บ้านรับไม่ได้
กลัวคุณแม่จะเสียใจถ้ารู้ว่าแต่งกับผู้หญิงต่างศาสนิก
ในใจเราตอนนั้นคิดสารพัดจะแต่งยังไงพ่อแม่ฉันล่ะ
จะไม่ให้เกียรติฉันเลยเหรอคำถามที่อยู่ในใจมากมาย
จนเขาก็ถามเราว่าเราจะรับอิสลามได้ไหม?
เราตอบได้เลยว่าเราจะไม่รับเพราะเขานะ
แต่เรารับเพราะเราศรัทธาในพระเจ้าแล้วจริงๆถึงจะรับ
มันเป็นอะไรที่หนักหนามากจิตใจตอนนั้นไม่มีใครเลยที่เราจะปรึกษาได้
จะแต่งงานกันยังไงผู้ใหญ่ไม่รับรู้ได้ด้วยเหรอคำถามมากมายในหัว
แต่ก็ยังคงไม่มีคำตอบกลับมา
ช่วงหลังๆพี่เขาก็เริ่มแนะนำให้เรารู้จักกับเพื่อนๆเขาที่เป็นมุสลิม
เพื่อนๆพี่เขาก็เตือนนะ อยู่แบบนี้มันบาปนะ
เราก็เริ่มไม่สบายใจล่ะตัดสินใจรับอิสลามเลยล่ะกันกับเพื่อนพี่เขา
และพี่เขาก็อยู่ข้างๆด้วย วันนั้นเป็นวันที่พี่เขาจะต้องกลับไปนอนที่บ้าน
เขาก็ส่งbb มาหาเราว่า" You are Muslim laawna teerak" ตื้นตันอย่างบอกไม่ถูก
น้ำตาใหลเลยวันที่เป็นมุสลิมเต็มตัววันแรกเราอยากเป็นมานานแล้ว
เราชอบยืนฟังเสียงอาซานมากตั้งแต่เด็กๆแล้วพี่เขาก็บอกให้เราไปอาบน้ำนะ
ลองฝึกนมาซดู หลังจากที่รับอิสลามแล้วพี่เขาก็ยังคงมาหาเราที่คอนโดทุกวัน
ไปรับกินข้าวเย็น นมาซด้วยกัน ใช้ชีวิตปรกติ
เริ่มใกล้เข้าสู่เดือนรอมฎอนแล้วสินะพี่เขาก็ให้เราลองฝึกถือศีลอดู เราอยากอ่านฟาติหะฮ์เป็นจัง
อยากอ่านอัลกุรอานได้บ้างเพราะเวลาพี่เขาสอนก็แทบจะไม่มี
สอนทีก็ดุทีออกเสียงไม่เป็นก็โดนดุเอาไงล่ะที่นี้
หาที่เรียนในอินเตอร์เน็ตดูสิเจอที่มูลนิธิสันติชน แต่ทำไมไกลจัง
จะไปยังไงตั้งรามคำแหง53แล้วเราอยู่สาธร เอาหว่ะลองดู
วันอาทิตย์พี่เข้าก็ขับรถไปรับ-ส่ง อยู่ตลอด
เราก็เริ่มเรียนเยอะเริ่มรู้ในเรื่องศาสนามากขึ้น
ก็ค่อยไปถกเถียงกับพี่เขาอยู่บ่อยๆ ทั้งเรื่องอาหารการกินที่ไม่ฮาลาล
และเรื่องที่พี่เขาไม่ยอมแต่งงานกับเรา เราไม่อยากอยู่กินกับแบบนี้อีกแล้ว
ครูที่สันติชนบอกว่าผิดและบาปมากเรื่องซินา
ช่วงหลังๆเราก็พยายามทร่จะห่างเหินกับพี่เขามากทะเลาะกันบ่อยขึ้น
จนพี่เขาก็คิดว่าเราเจอคนใหม่แล้วใช่ไหมที่เปลี่ยนไป
แต่จริงๆแล้วไม่ใช่นะเรารับอิสลามมาใหม่อัลลอฮฺลบล้างความผิดที่ผ่านมาให้เราหมดแล้ว
เราไม่อยากสร้างบาปติดตัวอีก จนวันหนึ่งเราไปเดินสยามกับเพื่อนๆเราตัดสินใจ
พิมพ์ข้องความไปบอกพี่เขาว่า" หน้าไม่อายบ้างเหรออยู่กินกันแบบนี้ต่างคนต่างมีศาสนากันทั้งคู่แล้ว
จะอยู่กินกันแบบนี้โดยที่ไม่คิดจะทำไรให้มันถูกต้องต่างคนต่างเดินสักทีถ้าเป็นแบบนี้"
พี่เขาก็ยังคงยืนยันว่าไม่เลิกก็ทะเลาะกันทุกวันกับเรื่องนิกะห์
ความฝันของผู้หญิงทุกคนคือการได้แต่งงานกับคนที่เรารัก
แต่พี่เขากลัวๆสังคมของเขา กลัวคุณแม่เขา เพราะเรากับพี่เขาต่างกันเยอะ
ทั้งเรื่องเราเป็นคนต่างศาสนิกมาก่อน ฐานะ ชาติตระกูล เขา
เทียบกันไม่ติดเลย หลังรอมฎอนเราก็ชักไม่ไหวแล้ว
อยู่ไปก็ไม่มีความสุขกันอยู่ดีสร้างบาปติดตัวเราเปล่าๆอัลลอฮ์ก็จะทดสอบเรากันอยู่แบบนี้
เราตัดสินใจเดินออกไปหาคอนโดใหม่
หาที่ๆใกล้มัสยิด ชุมชนมุสลิม ให้มากที่สุด
ในวันที่ไม่มีพี่เขาแล้วจะได้หากินเองได้เพราะปรกติพี่เขาจะพาเราไปกินซื้อของมาให้ที่คอนโดตลอด ได้คอนโดแล้วใกล้มัสยิดมากสะดวกสุดแล้วทั้งใกล้มหาวิทยาลัยด้วยเอาที่นี้ล่ะ
แล้วจะเอาตังค์ที่ไหนจ่ายค่าห้องอีกกลับบ้านไปที่บ้านก็ไม่คุยด้วยเพราะตั้งแต่เราอิสลามก็ไม่มีใครเอาเราเลยจะทำยังไงดี
กลับไปนอนคิดๆๆและนมาซอิสติคอเราะห์เช้ามาตัดสินใจเอาทอง1บาทที่พี่เขาซื้อให้ไปจำนำเพื่อไปจ่ายค่าคอนโดก่อนกับเงินเก็บอีกจำนวนหนึ่ง ปัญหามากมายเข้ามาในสมองฉันจะทำยังไงดี อยู่ที่นี้ในจะค่าห้องต่อเดือน ค่ากิน ค่าเทอม จะอยู่ยังไงรายได้ก็ไม่มี เพราะที่ผ่านมาพี่เขาดูแลให้เราหมดออกค่าใช้จ่ายให้หมดทุกอย่าง
ชีวิตของมุสลิมใหม่ที่ไร้ซึ่งมะฮฺรอม ต้องฝ่าฝันไปท่ามกลางความเคว้งคว้าง ฟิตนะห์ต่างๆนาๆ จะไปไหนมาไหนไม่มีคนคอยรับ-ส่ง อีกต่อไปแล้ว ทำไมชั่งลำบากอย่างนี้แต่เราเลือกที่จะออกมาแล้วต้องอยู่ให้ได้ยืนหยัดในหนทางนี้ให้ได้ ในระหว่างที่เราย้ายมาอยู่ที่ใหม่วันที่เราออกมาเราก็ไม่ได้พี่เขาสักคำนะพี่เขาก็พยายามติดต่อเรา ตามหาเรานะ เขาก็ยังคงโอนตังค์มาให้เราใช้อยู่ตลอดเพราะเขารู้เราไม่มีรายได้จากตรงไหน เขายังเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดสำหรับเราเสมอ ความฝันที่เราอยากจะแต่งงานอยู่กับเขาอย่างถูกต้องตามหลักการ มันคงเป็นไปไม่ได้แล้วเพราะเขาเลือกที่จะให้ เราเดินจากเขามาเอง เขาไม่กล้าพอเรา2คนคงอ่อนแอ่เกินไปที่ฝ่าฝันมันไปด้วยกัน
หลังจากที่เรามาอยู่ที่ใหม่แล้วเราคงต้องหางานทำแล้ว เพราะเราไม่มีใครที่จะส่งเสียเลี้ยงดูเราแล้ว ถึงพี่เขาจะโอนตังค์มาให้ใช้ก็ไม่ได้ให้เหมือนตอนที่อยู่ด้วยกันมันเริ่มไม่พอแล้ว ไหนค่าเทอมจะมาแล้ว
ค่าห้องอีก จะให้ไปทำงานอะไรกางานก็อยากที่ไหนจะให้คลุมผม มีที่นมาซ ฉันเป็นมุสลิมมะห์แล้วฉันจะทำงานที่ไม่ให้คลุมผมไม่ได้แล้ว ขอบาย จะทำงานอะไรดีที่จะได้เงินมาเยอะๆๆหาๆๆในอินเตอร์เน็ต เห็นที่ทำงานใกล้มหาวิทยาลัยดี ลองดูล่ะกันไปสัมภาษณ์เสร็จบอสถามจะทำงานได้วันไหน คำถามแรก"หนูคลุมผมได้ใช้ไหมคะ?" (ได้ครับ)
ดีใจอย่างบอกไม่ถูก อัลฮัมดุลิ้ลลาฮ์
เงินเดือนทุกอย่างได้ตามเนียตที่เราอยากได้อัลลอฮ์เลือกสิ่งที่ดีที่สุดมาแทนที่ทุกอย่าง เราเริ่มตั้งต้นชีวิตได้ได้เองแล้วมีงานทำ
มีเงิน ใช้ทุกอย่างไม่ขัดสนแล้วแต่เรื่องในอดีตระหว่างพี่เขากับเรายังคงวนเวียนอยู่แบบนี้เรายังคงคุยกันตลอดเพียงแต่ไม่ได้เจอหน้ากัน เสาร์-อาทิตย์ วันหยุดเราก็พยายามไปเรียนศาสนา ฟังบรรยาย กับพี่ๆน้องๆในญามาอะห์ที่สันติชน เพื่อเพิ่มพูนอีหม่านให้กับเรา มันไม่ง่ายเลยสำหรับบททดสอบนี้ที่พระองค์มอบให้กับบ่าวคนนี้ เราพยายามที่จะไม่คิดไม่นึกถึงเรื่องระหว่างเรากับพี่เขาที่มันเกิดขึ้นแต่มันทำไมได้เลย3ปีกว่าๆที่คบกันมันะคนเป็นช่วงเวลาที่ทั้งมีความสุขและความทุกข์. แต่ทำไมเรา2คนถึงอ่อนแอ่กันขนาดถึงต้องฝ่าฝืนคำสั่งของพระเจ้า ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
หากไม่มีพี่เขาเราก็ยังคงไม่รู้จักอิสลามเราไม่เคยลืมพี่เขา
และพี่เขายังคงอยู่ในดุอาอ์เราเสมอ ขออัลลอฮ์ได้อภัยโทษให้กับพี่เขาและเรา2คนด้วย
แค่เรื่องแต่งงานให้ถูกต้องพี่เขาทำให้เราไม่ได้ ทั้งๆที่เขาบอกเองว่าเขาให้เราได้หมดทุกอย่างแต่เรื่องนี้ให้ไม่ได้ จะทำยังไงได้ทุกคือสิ่งที่พระองค์กำหนดมากมดแล้วเราต้องเดินหน้าต่อไป เป็นบ่าวที่ดีของพระองค์ตลอดไป
เชื่อว่ามีพี่น้องมุสลิมใหม่หลายท่านคงเคยเจอกับเหตุการ์ณแบบนี้ เราอยากบอกกับพี่น้องมุสลิมใหม่ทุกคนที่กำลังเจอเรื่องแบบนี้อยู่ให้หนักแน่นและยืดหมั่นในหนทางให้มากที่สุดนะคะ ถ้าเรายังคงฝ่าฝืนในเรื่องที่ผิดมันอาจจะพลาดโอกาศหลายๆอย่าง
อย่าเป็นมุสลิมเพียงเพราะวาที สามี-ภรรยา หรือคนที่เรากำลังคบหาดูใจเป็นมุสลิมแล้วเราเป็นไปกับเขา เพราะนั้นหมายถึงว่าตัวเราไม่รักพระเจ้าอย่างแท้จริงหากเราศรัทธาแล้วเชื่อในพระองค์แล้วก็อย่ารอช้าจนลมหายใจเราหมดจากโลกนี้ไปโดยที่ไม่รู้จักอัลลอฮ์ ไม่รู้จักนบีมุฮัมหมัด(ซล.) นะคะ
ใครเคยมีแฟนเป็นมุสลิมแล้วไม่ได้แต่งงานบ้างคะ?
คบกันได้สักพักตัดสินใจที่อยู่ด้วยกันโดยที่ไม่ได้แต่งงานกัน
ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่ทราบเลยว่าการอยู่กินด้วยกันก่อนแต่งงาน
จะบาปมากแค่ไหน?
เรื่องทำซินาเป็นบาปใหญ่มากในอิสลาม
เราไม่เคยทราบมาก่อนเพราะความที่พี่เขาไม่ได้เคร่งครัดอะไร
อยู่กินด้วยกันสักพักจนเกือบปีพี่เขาก็มาเล่าให้ฟังว่า
เราจะต้องแต่งงานกันนะแต่ต้องแอบแต่งเพราะที่บ้านรับไม่ได้
กลัวคุณแม่จะเสียใจถ้ารู้ว่าแต่งกับผู้หญิงต่างศาสนิก
ในใจเราตอนนั้นคิดสารพัดจะแต่งยังไงพ่อแม่ฉันล่ะ
จะไม่ให้เกียรติฉันเลยเหรอคำถามที่อยู่ในใจมากมาย
จนเขาก็ถามเราว่าเราจะรับอิสลามได้ไหม?
เราตอบได้เลยว่าเราจะไม่รับเพราะเขานะ
แต่เรารับเพราะเราศรัทธาในพระเจ้าแล้วจริงๆถึงจะรับ
มันเป็นอะไรที่หนักหนามากจิตใจตอนนั้นไม่มีใครเลยที่เราจะปรึกษาได้
จะแต่งงานกันยังไงผู้ใหญ่ไม่รับรู้ได้ด้วยเหรอคำถามมากมายในหัว
แต่ก็ยังคงไม่มีคำตอบกลับมา
ช่วงหลังๆพี่เขาก็เริ่มแนะนำให้เรารู้จักกับเพื่อนๆเขาที่เป็นมุสลิม
เพื่อนๆพี่เขาก็เตือนนะ อยู่แบบนี้มันบาปนะ
เราก็เริ่มไม่สบายใจล่ะตัดสินใจรับอิสลามเลยล่ะกันกับเพื่อนพี่เขา
และพี่เขาก็อยู่ข้างๆด้วย วันนั้นเป็นวันที่พี่เขาจะต้องกลับไปนอนที่บ้าน
เขาก็ส่งbb มาหาเราว่า" You are Muslim laawna teerak" ตื้นตันอย่างบอกไม่ถูก
น้ำตาใหลเลยวันที่เป็นมุสลิมเต็มตัววันแรกเราอยากเป็นมานานแล้ว
เราชอบยืนฟังเสียงอาซานมากตั้งแต่เด็กๆแล้วพี่เขาก็บอกให้เราไปอาบน้ำนะ
ลองฝึกนมาซดู หลังจากที่รับอิสลามแล้วพี่เขาก็ยังคงมาหาเราที่คอนโดทุกวัน
ไปรับกินข้าวเย็น นมาซด้วยกัน ใช้ชีวิตปรกติ
เริ่มใกล้เข้าสู่เดือนรอมฎอนแล้วสินะพี่เขาก็ให้เราลองฝึกถือศีลอดู เราอยากอ่านฟาติหะฮ์เป็นจัง
อยากอ่านอัลกุรอานได้บ้างเพราะเวลาพี่เขาสอนก็แทบจะไม่มี
สอนทีก็ดุทีออกเสียงไม่เป็นก็โดนดุเอาไงล่ะที่นี้
หาที่เรียนในอินเตอร์เน็ตดูสิเจอที่มูลนิธิสันติชน แต่ทำไมไกลจัง
จะไปยังไงตั้งรามคำแหง53แล้วเราอยู่สาธร เอาหว่ะลองดู
วันอาทิตย์พี่เข้าก็ขับรถไปรับ-ส่ง อยู่ตลอด
เราก็เริ่มเรียนเยอะเริ่มรู้ในเรื่องศาสนามากขึ้น
ก็ค่อยไปถกเถียงกับพี่เขาอยู่บ่อยๆ ทั้งเรื่องอาหารการกินที่ไม่ฮาลาล
และเรื่องที่พี่เขาไม่ยอมแต่งงานกับเรา เราไม่อยากอยู่กินกับแบบนี้อีกแล้ว
ครูที่สันติชนบอกว่าผิดและบาปมากเรื่องซินา
ช่วงหลังๆเราก็พยายามทร่จะห่างเหินกับพี่เขามากทะเลาะกันบ่อยขึ้น
จนพี่เขาก็คิดว่าเราเจอคนใหม่แล้วใช่ไหมที่เปลี่ยนไป
แต่จริงๆแล้วไม่ใช่นะเรารับอิสลามมาใหม่อัลลอฮฺลบล้างความผิดที่ผ่านมาให้เราหมดแล้ว
เราไม่อยากสร้างบาปติดตัวอีก จนวันหนึ่งเราไปเดินสยามกับเพื่อนๆเราตัดสินใจ
พิมพ์ข้องความไปบอกพี่เขาว่า" หน้าไม่อายบ้างเหรออยู่กินกันแบบนี้ต่างคนต่างมีศาสนากันทั้งคู่แล้ว
จะอยู่กินกันแบบนี้โดยที่ไม่คิดจะทำไรให้มันถูกต้องต่างคนต่างเดินสักทีถ้าเป็นแบบนี้"
พี่เขาก็ยังคงยืนยันว่าไม่เลิกก็ทะเลาะกันทุกวันกับเรื่องนิกะห์
ความฝันของผู้หญิงทุกคนคือการได้แต่งงานกับคนที่เรารัก
แต่พี่เขากลัวๆสังคมของเขา กลัวคุณแม่เขา เพราะเรากับพี่เขาต่างกันเยอะ
ทั้งเรื่องเราเป็นคนต่างศาสนิกมาก่อน ฐานะ ชาติตระกูล เขา
เทียบกันไม่ติดเลย หลังรอมฎอนเราก็ชักไม่ไหวแล้ว
อยู่ไปก็ไม่มีความสุขกันอยู่ดีสร้างบาปติดตัวเราเปล่าๆอัลลอฮ์ก็จะทดสอบเรากันอยู่แบบนี้
เราตัดสินใจเดินออกไปหาคอนโดใหม่
หาที่ๆใกล้มัสยิด ชุมชนมุสลิม ให้มากที่สุด
ในวันที่ไม่มีพี่เขาแล้วจะได้หากินเองได้เพราะปรกติพี่เขาจะพาเราไปกินซื้อของมาให้ที่คอนโดตลอด ได้คอนโดแล้วใกล้มัสยิดมากสะดวกสุดแล้วทั้งใกล้มหาวิทยาลัยด้วยเอาที่นี้ล่ะ
แล้วจะเอาตังค์ที่ไหนจ่ายค่าห้องอีกกลับบ้านไปที่บ้านก็ไม่คุยด้วยเพราะตั้งแต่เราอิสลามก็ไม่มีใครเอาเราเลยจะทำยังไงดี
กลับไปนอนคิดๆๆและนมาซอิสติคอเราะห์เช้ามาตัดสินใจเอาทอง1บาทที่พี่เขาซื้อให้ไปจำนำเพื่อไปจ่ายค่าคอนโดก่อนกับเงินเก็บอีกจำนวนหนึ่ง ปัญหามากมายเข้ามาในสมองฉันจะทำยังไงดี อยู่ที่นี้ในจะค่าห้องต่อเดือน ค่ากิน ค่าเทอม จะอยู่ยังไงรายได้ก็ไม่มี เพราะที่ผ่านมาพี่เขาดูแลให้เราหมดออกค่าใช้จ่ายให้หมดทุกอย่าง
ชีวิตของมุสลิมใหม่ที่ไร้ซึ่งมะฮฺรอม ต้องฝ่าฝันไปท่ามกลางความเคว้งคว้าง ฟิตนะห์ต่างๆนาๆ จะไปไหนมาไหนไม่มีคนคอยรับ-ส่ง อีกต่อไปแล้ว ทำไมชั่งลำบากอย่างนี้แต่เราเลือกที่จะออกมาแล้วต้องอยู่ให้ได้ยืนหยัดในหนทางนี้ให้ได้ ในระหว่างที่เราย้ายมาอยู่ที่ใหม่วันที่เราออกมาเราก็ไม่ได้พี่เขาสักคำนะพี่เขาก็พยายามติดต่อเรา ตามหาเรานะ เขาก็ยังคงโอนตังค์มาให้เราใช้อยู่ตลอดเพราะเขารู้เราไม่มีรายได้จากตรงไหน เขายังเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดสำหรับเราเสมอ ความฝันที่เราอยากจะแต่งงานอยู่กับเขาอย่างถูกต้องตามหลักการ มันคงเป็นไปไม่ได้แล้วเพราะเขาเลือกที่จะให้ เราเดินจากเขามาเอง เขาไม่กล้าพอเรา2คนคงอ่อนแอ่เกินไปที่ฝ่าฝันมันไปด้วยกัน
หลังจากที่เรามาอยู่ที่ใหม่แล้วเราคงต้องหางานทำแล้ว เพราะเราไม่มีใครที่จะส่งเสียเลี้ยงดูเราแล้ว ถึงพี่เขาจะโอนตังค์มาให้ใช้ก็ไม่ได้ให้เหมือนตอนที่อยู่ด้วยกันมันเริ่มไม่พอแล้ว ไหนค่าเทอมจะมาแล้ว
ค่าห้องอีก จะให้ไปทำงานอะไรกางานก็อยากที่ไหนจะให้คลุมผม มีที่นมาซ ฉันเป็นมุสลิมมะห์แล้วฉันจะทำงานที่ไม่ให้คลุมผมไม่ได้แล้ว ขอบาย จะทำงานอะไรดีที่จะได้เงินมาเยอะๆๆหาๆๆในอินเตอร์เน็ต เห็นที่ทำงานใกล้มหาวิทยาลัยดี ลองดูล่ะกันไปสัมภาษณ์เสร็จบอสถามจะทำงานได้วันไหน คำถามแรก"หนูคลุมผมได้ใช้ไหมคะ?" (ได้ครับ)
ดีใจอย่างบอกไม่ถูก อัลฮัมดุลิ้ลลาฮ์
เงินเดือนทุกอย่างได้ตามเนียตที่เราอยากได้อัลลอฮ์เลือกสิ่งที่ดีที่สุดมาแทนที่ทุกอย่าง เราเริ่มตั้งต้นชีวิตได้ได้เองแล้วมีงานทำ
มีเงิน ใช้ทุกอย่างไม่ขัดสนแล้วแต่เรื่องในอดีตระหว่างพี่เขากับเรายังคงวนเวียนอยู่แบบนี้เรายังคงคุยกันตลอดเพียงแต่ไม่ได้เจอหน้ากัน เสาร์-อาทิตย์ วันหยุดเราก็พยายามไปเรียนศาสนา ฟังบรรยาย กับพี่ๆน้องๆในญามาอะห์ที่สันติชน เพื่อเพิ่มพูนอีหม่านให้กับเรา มันไม่ง่ายเลยสำหรับบททดสอบนี้ที่พระองค์มอบให้กับบ่าวคนนี้ เราพยายามที่จะไม่คิดไม่นึกถึงเรื่องระหว่างเรากับพี่เขาที่มันเกิดขึ้นแต่มันทำไมได้เลย3ปีกว่าๆที่คบกันมันะคนเป็นช่วงเวลาที่ทั้งมีความสุขและความทุกข์. แต่ทำไมเรา2คนถึงอ่อนแอ่กันขนาดถึงต้องฝ่าฝืนคำสั่งของพระเจ้า ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
หากไม่มีพี่เขาเราก็ยังคงไม่รู้จักอิสลามเราไม่เคยลืมพี่เขา
และพี่เขายังคงอยู่ในดุอาอ์เราเสมอ ขออัลลอฮ์ได้อภัยโทษให้กับพี่เขาและเรา2คนด้วย
แค่เรื่องแต่งงานให้ถูกต้องพี่เขาทำให้เราไม่ได้ ทั้งๆที่เขาบอกเองว่าเขาให้เราได้หมดทุกอย่างแต่เรื่องนี้ให้ไม่ได้ จะทำยังไงได้ทุกคือสิ่งที่พระองค์กำหนดมากมดแล้วเราต้องเดินหน้าต่อไป เป็นบ่าวที่ดีของพระองค์ตลอดไป
เชื่อว่ามีพี่น้องมุสลิมใหม่หลายท่านคงเคยเจอกับเหตุการ์ณแบบนี้ เราอยากบอกกับพี่น้องมุสลิมใหม่ทุกคนที่กำลังเจอเรื่องแบบนี้อยู่ให้หนักแน่นและยืดหมั่นในหนทางให้มากที่สุดนะคะ ถ้าเรายังคงฝ่าฝืนในเรื่องที่ผิดมันอาจจะพลาดโอกาศหลายๆอย่าง
อย่าเป็นมุสลิมเพียงเพราะวาที สามี-ภรรยา หรือคนที่เรากำลังคบหาดูใจเป็นมุสลิมแล้วเราเป็นไปกับเขา เพราะนั้นหมายถึงว่าตัวเราไม่รักพระเจ้าอย่างแท้จริงหากเราศรัทธาแล้วเชื่อในพระองค์แล้วก็อย่ารอช้าจนลมหายใจเราหมดจากโลกนี้ไปโดยที่ไม่รู้จักอัลลอฮ์ ไม่รู้จักนบีมุฮัมหมัด(ซล.) นะคะ